Fixed Gear หรือ Fixie'' เป็นคำแสลงของจักรยานที่มีเกียร์เดียว และล้อหลังไม่สามารถฟรีได้ คือ เท้าต้องปั่นตามไปด้วยทุกครั้งที่รถวิ่งอยู่ และรถประเภทนี้เป็นรถที่ไม่ต้องการใบจานหลายใบ หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์ช่วยเหลือในการเปลี่ยนเกียร์ และบางคนก็ไม่ใช้เบรคด้วยซ้ำ สมัยก่อนเป็นภาหนะส่งเอกสารตามตึก และเป็นกีฬาที่ใช้แข่งในเวลโลโดม
เดิมทีเจ้ารถ Fixed Gear ในต่างประเทศนั้น มันมีหน้าที่เป็นรถจักรยานใช้ส่งเอกสาร หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Messenger Bike เนื่องจากรถมอเตอร์ไซค์ในต่างประเทศล้วนมีขนาดใหญ่ไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งานออกตระเวนซอกแซก ไปตามตรอกซอกซอย หรือบนถนนที่มียวดยานการจราจรติดขัด รถจักรยานจึงสะดวกรวดเร็วกว่าเยอะ และสามารถพกพาขึ้นรถไฟฟ้าได้ง่ายเพราะมันเล็ก ผอมเพรียวกะทัดรัด น้ำหนักเบา เลยคล่องตัวกว่ามอร์เตอร์ไซค์เป็นไหนๆต่อมามีการพลิกแพลงประยุกต์ ท่าทางแบบ BMX Stunt นักปั่นที่เก่งๆ สามารถเล่นท่า ทั้งยกล้อ ควงมันไปมา ด้วยการ balanceรถที่ต้องคอยจับจังหวะในการขี่ทุกฝีก้าวที่ย้ำน้ำหนักลงบนลูกบันได ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นการเพิ่มรสชาด เปรี้ยว เผ็ด มันส์ ให้เข้ากับรถที่มีสีสัน สดใสแสบทรวง หรือจะหวานแหววแนวลูกกวาด ผสมกลมกลืนกับท่าทางพลิกแพลงได้อย่างลงตัว เห็นแล้วเป็นที่สะดุดตาสะดุดใจของใครหลายๆ คน รวมถึงตัวผู้เขียนนี้ด้วย จึงเป็นที่มาของ Trend ใหม่ในตอนนี้ที่อยากจะแนะนำยังไงครับ
รถจักรยาน Fixed Gear เข้าสู่ประเทศไทยจากนักศึกษาที่ไปเรียนต่อยังต่างประเทศ แล้วได้นำกระแสนี้มาเผยแพร่ เมื่อยามที่เดินทางกลับมาบ้านเกิด ยังมาพร้อมกับข้อมูลมากมายทั้งแนวการแต่งกาย เทคนิคการขับขี่เล่นท่า ซึ่งเราๆ สามารถหาข้อมูลเหล่านี้เพิ่มอย่างง่ายดายจากโลกอินเตอร์เน็ตที่เพียงคลิ๊กคำว่า fixed gear ลงใน google นอกจากนี้ยังมีกระแสมาจากนักจักรยานประเภทลู่ ที่ มีกลุ่มเล่นอยู่แล้วในประเทศไทยจับเอารถคู่ใจมาปรับแต่งเพื่อขี่เล่นในเมือง ซึ่งรถ Fixed Gear ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนโฉม ปรับปรุงวัสดุให้มีความแข็งแรงคงทนมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการเล่นท่าผาดโผน หรือไม่ก็จะใช้รถลู่เดิมๆ ที่ปรับเปลี่ยนอะไหล่บางชิ้น มาเป็นรถ Fixed Gear ดูแล้วก็ให้ความรู้สึกคลาสสิกไปอีกแบบแต่ก็ยังสามารถให้ความสนุกเพลิดเพลินแก่ผู้ขี่ได้ไม่แพ้กัน
รถลู่ ( Track Bike) vs. Fixed Gear Bike รถลู่ ( Track Bike) และ Fixed Gear Bike ที่จริงแล้วมันก็คือรถชนิดเดียวกันนั่นแหละ เจ้ารถลู่มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับการแข่งขันใน Velodrome และถูกออกแบบมาไม่ให้มันมีทั้งเบรกหน้า และหลัง เพราะว่าการแข่งขันประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้การชะลอความเร็วในช่วงสปีด หรือช่วงทางโค้ง เป้าหมายเพียงแต่ไปข้างหน้าด้วยความเร็วแบบสุดๆ เนื่องจากสนามที่เป็นรูปวงรี และจะมีพื้นที่ลา
ดเอียงรับแรงพุ่งปะทะของรถที่ต้องสาดโค้งรอบสนามตลอดระยะเวลาการแข่งขัน รถลู่ยังมีน้ำหนักเบา จากวัสดุอลูมิเนียม ไททาเนียม หรือ คาร์บอน ซึ่งสดุแต่ละชนิดมีคุณลักษณะ และให้ประโยชน์ที่ต่างกัน ได้เปรียบเสียเปรียบต่างกันไป เช่น คาร์บอนให้ความเบาแต่ความคงทนอาจสู้อลูมิเนียม หรือ ไททาเนียมไม่ได้ เมื่อรถ Fixed Gear แล่นบนท้องถนนก็ควรจะมีเบรกเพื่อเสริมความปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งรถประเภทนี้จะไม่มีฟรีที่ล้อหลัง ผู้ขี่ต้องจับจังหวะในการปั่นที่ต่อเนื่องให้ดี บวก กับการที่มันไม่มีเบรค จึงต้องใช้ทักษะ ความชำนาญ และความแม่นยำในการบังคับรถจักรยานเป็นอย่างดี
Fixed Gear Trick Bike
ส่วนอีกประเภทที่เร้าใจเร้าร้อนขึ้นมาหน่อย จากการผาดโผน กระโดดกระเด้งกระดอนไปตามภาษาชาว Fixed Gear ประเภทTrick เริ่มมีการใช้อุปกรณ์ในการสร้างสาร อะดีนาลีน เช่นเดียวกับสนาม Bmx ประเภท Street & Dirt Jump ดังนั้นอุปกรณ์ที่ใช้เริ่มปรับเปลี่ยนเพื่อความคงทนจากความซุกซนของนักขี่แต่ล่ะท่าน เริ่มจากรูปทรงเฟรมที่กลายพันธ์ออกมาทางแนว Dirt นิดนิด ช่วงระยะของเฟรมจะมีขนาดยาวกว่าสายปั่นแต่ยังมีเค้าโครงเดิมอยู่ สีสันจัดจ้านด้วยสติ๊กเกอร์ตามสไตล์ที่ติดกันเข้าไป ตะเกียบหน้าของจักรยานมีขนาดยาวขึ้นและกว้างขึ้นเป็นรูปแบบ Bmx เพื่อรองรับขนาดของยางที่ใหญ่ และขอบล้อที่กว้างขึ้น
ล้อที่ใช้ในสาย ทริค จะมีขนาด 3 แบบคือ ล้อเสือหมอบทั่วไป ทั้งล้อแม็ก หรือซี่ลวด ที่ขนาดมาตรฐาน 700 C แบบที่สองเล็กลงมานิดนึงเพื่อลดการเสียดสีของล้อระหว่างเล่นท่ากับเฟรมท่อนล่าง คือขาด 650 C ส่วนแบบสุดท้าย เอาล้อ Bmx และล้อ เมาเท่นไบค์มาดัดแปลงมันซะเลย เพราะตัวถังของรถสายนี้มีความเป็นลูกครึ่งมากมายกับ Dirt Jump และ Bmx จึงนำอะไหล่ของพ่อพันธ์แม่พันธ์มาใช้กันได้บางส่วน ตอนนี้เริ่มมีการใช้ เป๊กหรือที่เหยียบเท้าของชาว Bmx มาตะกายขอบคอนกรีตต่างๆ มากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น