โรคเบาหวานมีกี่ประเภท อะไรบ้าง
โรคเบาหวาน หรือ Diabetes เป็นโรคที่รักษาให้หายขาดได้ยาก หรืออาจจะไม่หายขาดเลยตลอดชีวิต สร้างความทุกข์ทรมานให้กับผู้ป่วยเป็นอย่างมาก จากรายงานทางการแพทย์พบว่ามีผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลกหลายร้อยล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง วันนี้เราจะมาดูกันครับว่าโรคเบาหวานเกิดจากอะไร มีอยู่กี่ประเภท มีอาการอย่างไรและมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง
คำว่า “โรคเบาหวาน” ถ้าแปลเป็นไทยแบบตรงๆ ก็คือ “โรคฉี่หวาน” นั่นเอง (ภาษาไทยเดิม เบา = ฉี่หรือปัสสาวะ) และสาเหตุที่ฉี่หวานก็เนื่องมาจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกินไป จนไตสามารถคัดกรองน้ำตาลเหล่านั้นออกมาเป็นส่วนหนึ่งของของเสีย และขับออกมาทางปัสสาวะนั่นเอง
ในการจำแนกประเภทของโรคเบาหวาน เราสามารถจำแนกได้ 2 ประเภทคือ
1. เบาหวานประเภทที่ 1 : ประเภทต้องพึ่งพาอินซูลิน
เบาหวานประเภทนี้มีสาเหตุมาจากร่างกายผลิตโฮโมนอินซูลิน (Insulin) ได้น้อยหรือไม่ได้เลย ซึ่งโรคเบาหวานประเภทนี้สามารถติดต่อทางพันธุกรรมได้ด้วย โฮโมนอินซูลินนั้นถูกผลิตโดยตับอ่อน มีหน้าที่ช่วยในการเผาผลาญน้ำตาล เพื่อแปลงเป็นพลังงานให้กับเซลลืต่างๆของร่างกาย ในเมื่อร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอต่อการเผาผลาญน้ำตาล จึงมีน้ำตาลเหลือหรือตกค้างอยู่ในกระแสเลือดและเซลลืต่างๆของร่างกาย
เบาหวานประเภทนี้มีสาเหตุมาจากร่างกายผลิตโฮโมนอินซูลิน (Insulin) ได้น้อยหรือไม่ได้เลย ซึ่งโรคเบาหวานประเภทนี้สามารถติดต่อทางพันธุกรรมได้ด้วย โฮโมนอินซูลินนั้นถูกผลิตโดยตับอ่อน มีหน้าที่ช่วยในการเผาผลาญน้ำตาล เพื่อแปลงเป็นพลังงานให้กับเซลลืต่างๆของร่างกาย ในเมื่อร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เพียงพอต่อการเผาผลาญน้ำตาล จึงมีน้ำตาลเหลือหรือตกค้างอยู่ในกระแสเลือดและเซลลืต่างๆของร่างกาย
เบาหวานประเภทนี้เป็นกลุ่มที่พบได้ไม่มาก แต่มีอันตรายสูง โดยพบมากในกลุ่มชาวตะวันตก ไม่ค่อยพบในคนไทยหรือคนเอเชีย
การรักษาอาการของโรคเบาหวานประเภทนี้คือต้องเพิ่มอินซูลินให้กับร่างกายโดยการฉีดอินซูลินเข้าไปด้วยเข็มฉีดยาโดยตรง จะมากหรือน้อย จำนวนกี่ครั้งต่อวัน ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณความต้องการอินซูรินต่อวันของผู้ป่วย ซึ่งแพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นผู้วินิจฉัยและกำหนดปริมาณ วิธีการรักษานี้ค่อนข้างน่าหวาดเสียว และมีปัญหามากพอสมควรในกลุ่มเด็กๆ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่กลัวเข็มฉีดยา แต่ก็ยังไม่มีวิธีรักษาที่ดีกว่านี้ เนื่องจากยังไม่มีวิทยาการที่เจริญเพียงพอในการกระตุ้นตับอ่อนให้กลับมาผลิตอินซูรินอีกครั้งได้
2. เบาหวานประเภทที่ 2 : ประเภทไม่ต้องพึ่งพาอินซูลิน
เบาหวานกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่พบมากในประเทศไทยของเรา โดยจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณะสุขพบว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยเบาหวานประเภทนี้อยู่ราว 2-3 ล้านคน ร่างกายของผู้ป่วยโรคเบาหวานกลุ่มนี้ยังสามารถผลิตอินซูลินได้เป็นปกติ แต่ไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ในการเผาผลาญน้ำตาลได้อย่างเต็มที่ ส่วนสาเหตุของเบาหวานประเภทนี้มีอยู่หลากหลาย เช่น มีน้ำหนักตัวมากเกินไป มีไขมันในเลือดสูง รับประทานอาหารรสหวานมากเกินความต้องการของร่างกาย ขาดการออกกำลังกายที่ดี เซลล์ของร่างกายเกิดอาการดื้ออินซูลิน เป็นต้น
เบาหวานกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่พบมากในประเทศไทยของเรา โดยจากข้อมูลของกระทรวงสาธารณะสุขพบว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยเบาหวานประเภทนี้อยู่ราว 2-3 ล้านคน ร่างกายของผู้ป่วยโรคเบาหวานกลุ่มนี้ยังสามารถผลิตอินซูลินได้เป็นปกติ แต่ไม่สามารถนำอินซูลินไปใช้ในการเผาผลาญน้ำตาลได้อย่างเต็มที่ ส่วนสาเหตุของเบาหวานประเภทนี้มีอยู่หลากหลาย เช่น มีน้ำหนักตัวมากเกินไป มีไขมันในเลือดสูง รับประทานอาหารรสหวานมากเกินความต้องการของร่างกาย ขาดการออกกำลังกายที่ดี เซลล์ของร่างกายเกิดอาการดื้ออินซูลิน เป็นต้น
การรักษาโรคเบาหวานประเภทนี้ทำได้โดยการงดรับประทานอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายสามารถใช้พลังงานได้อย่างเต็มที่ ในบางรายอาจจะต้องให้อินซูลินเป็นครั้งคราว
อาการบ่งชี้ของโรคเบาหวาน
โรคเบาหวานจัดได้ว่าเป็นภัยเงียบประเภทหนึ่งที่คุกคามสุขภาพอนามัยของเรา แต่เราสามารถสังเกตุได้ว่า เรามีอาการเริ่มต้น สิ่งบ่งชี้ของโรคร้ายนี้ได้ โดยสังเกตุจากสิ่งเหล่านี้ครับ
1. ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน
2. กระหายน้ำมากและตลอดเวลา
3. อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
4. มีอาการคันตามผิวหนัง เป็นแผลแล้วหายยาก
5. น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
6. อาการชาที่ประสาทส่วนปลาย เช่นปลายนิ้ว
7. สายตาพร่ามัว
1. ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะเวลากลางคืน
2. กระหายน้ำมากและตลอดเวลา
3. อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
4. มีอาการคันตามผิวหนัง เป็นแผลแล้วหายยาก
5. น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
6. อาการชาที่ประสาทส่วนปลาย เช่นปลายนิ้ว
7. สายตาพร่ามัว
ถ้ามีอาการข้างต้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้วินิจฉัยอาการเสียแต่เนิ่นๆ บางรายปล่อยไว้จนมีอาการมาก จะทำให้การรักษายากขึ้นและร่างกายได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงจนเกินจะเยียวยาได้ เช่น บางรายเบาหวานขึ้นตาจนตาบอด บางรายเป็นแผลเรื้อรังจนต้องตัดแขน-ขาทิ้ง เป็นต้น
จะเห็นว่าโรคเบาหวานเป็นโรคที่น่ากลัวมากโรคหนึ่ง ที่สามารถทำให้การดำเนินชีวิตของเราเป็นไปด้วยความยากลำบาก และแน่นอนว่าการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ เราสามารถป้องกันโรคนี้ได้ (เบาหวานประเภทที่ 2) โดยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ งดหรือลดอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และที่สำคัญควรตรวจร่างกายและตรวจเลือดเป็นประจำทุกปี เพื่อที่ว่าเมื่อพบสิ่งผิดปกติในร่างกาย แพทย์จะได้แนะนำวิธีการรักษาและป้องกันผลกระทบตั้งแต่เนิ่นๆ…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น